วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ผลสำรวจและสถิติ

ผลสำรวจและสถิติ 

 


ผลการสำรวจในอังกฤษที่จัดทำโดยบริษัทเทคโนโลยี SecureEnvoy ระบุว่า จากจำนวนคนที่ทำการสำรวจทั้งหมด 1,000 คน มีมากถึงสองในสาม(66%)ที่ยอมรับว่าพวกเขากลัวที่จะอยู่โดยไม่มีโทรศัพท์มือถือ(คิดเป็นผู้หญิง 70 เปอร์เซ็นต์ ผู้ชาย 61 เปอร์เซ็นต์) ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่มากขึ้นกว่าเมื่อ ปีก่อน เพราะเมื่อ4ปีก่อนได้มีการศึกษาโดย UK Post Office ที่ได้ตัวเลข 53 เปอร์เซ็นต์ ยุคนั้นจำนวนผู้ชายกลัวมือถือหายมากกว่าผู้หญิง แต่ พ.ศ. นี้ผู้หญิงกลัวมือถือหายมีจำนวนมากกว่าผู้ชายอยู่ร้อยล่ะ9 ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะผู้ชายสมัยนี้นิยมมีมือถืออย่างน้อยสองเครื่องขึ้นไป เลยทำให้มีความกลัวมือถือจะหายน้อยกว่าเมื่อก่อน 

                คนที่มีอาการแบบนี้มากที่สุดคือกลุ่มคนในอายุ 18-24 ปี ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 77 ตามมาด้วยกลุ่มคนอายุ 25-34 คิดเป็นร้อยละ 68 สาเหตุ ที่ยิ่งอายุน้อยยิ่งขาดมือถือไม่ได้นั้น นักจิตวิทยาวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะวัยรุ่นเป็นวัยที่ติดเพื่อนแทบ 24 ชั่วโมง อยู่คนเดียวแล้วเหงา เบื่อ ดังนั้น จึงมีมือถือเป็นเพื่อน และใช้ในการติดต่อเพื่อน

                เว็บไซต์ allAboutCounseling.com ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการของโรค nomophobia ว่า ประกอบด้วย อาการตัวสั่น เหงื่อออก และคลื่นไส้ ในตอนที่ไม่มีโทรศัพท์มือถืออยู่กับตัว นอกเหนือจากนี้ คนที่มีนิสัยหมกมุ่นกับการคอยตรวจดูมือถือตลอดเวลาและมักจะกังวลว่าโทรศัพท์ วางอยู่ถูกที่หรือเปล่า ก็อาจจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ด้วยเช่นกัน  สำหรับ อาการเตือนว่าผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรค "โนโมโฟเบีย" คือ หยิบมือถือขึ้นมาดูถี่ กลัวว่าโทรศัพท์จะหายแม้จะอยู่ในที่ที่ปลอดภัย และไม่เคยปิดมือถือเลย 

               จากการศึกษาของ Helsinki Institute for Information Technology ประเทศฟินแลนด์ ในปัจจุบันพบว่า
"ผู้คนหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาดูโดยเฉลี่ย 34ครั้ง/วัน"
"ขณะที่ 75%บอกว่าใช้มือถือระหว่างทำภารกิจในห้องน้ำ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น